twitter
rss

ค้นหาบทเรียน

นักศึกษาที่ติดตามบทเรียน


ทบทวน Unit 1
การใช้ดิกชั่นนารีภาษาอังกฤษ – อังกฤษ
1.         Guide words   ตัวชี้แนะ  - เป็นคำที่อยู่ด้านบนของดิกชั่นนารี มุมบนซ้ายและขวา
พิมพ์ด้วยตัวหนา 
ด้านบนซ้าย  Left top =  the first word of the page  บอกคำแรกของหน้า
ด้านบนขวา  right top = the last word of the page บอกคำสุดท้ายของหน้า
2.        Spelling การสะกดคำ – หรือการแยกตัวสะกด หรือการแจกลูก ว่าคำศัพท์นั้นมีกี่พยางค์
เช่น into = in-to  มี 2 syllables มี 2 พยางค์ 
3.        Pronunciation = การออกเสียง – เป็นการบอกว่าคำนั้นออกเสียงที่ถูกต้องอย่างไร
และเน้นเสียงหนักที่พยางค์ไหน คำในภาษาอังกฤษที่มีเกินหนึ่งพยางค์ในการออกเสียงคำ
มากกว่าหนึ่งพยางค์จะต้องมีการออกเสียงหนัก-เบา  ในแต่ละพยางค์ ซึ่งการออกเสียงหนัก
เรียกว่า stress (‘)  ถ้าเห็นสัญลักษณ์นี้แสดงว่าพยางค์นั้นออกเสียงหนัก ถ้ามีสัญลักษณ์สอง
แห่ง หรือสองพยางค์ พยางค์ตัวที่สองจะเป็นบอกว่าพยางค์นั้นออกเสียงเบามาก แทบไม่ได้ยิน
4.        Syllable division = สัญลักษณ์ในการแยกตัวสะกด ตัวอย่างเช่น dot (.) หรือจุด การเว้น
วรรค (หรือเว้นช่องว่าง)  hyphen (-)  เส้นตรง  การใส่สัญลักษณ์แยกเพื่อให้ทราบว่า
ควรเว้นวรรคคำศัพท์นั้นตรงไหน และให้ทราบว่าคำนั้นมีกี่พยางค์
5.        Derivation = คือคำที่เปลี่ยนรูปไปจากคำเดิม อาจจะเปลี่ยนหน้าที่ของคำ (part of
Speech)  หรือเปลี่ยนจากเอกพจน์ เป็นพหูพจน์ (singular –plural)  เช่น
Inform V. = information (n.)   
6.        Definition = ความหมายของคำศัพท์ คือการบอกความหมายของคำ ซึ่งอาจมีมากกว่าหนึ่ง
ความหมาย และจะลำดับความหมายที่สำคัญ ๆ ก่อน หากมีมากกว่าหนึ่งความหมายจะมี
ตัวเลขกำกับ
7.        Part of speech = หน้าที่ของคำ  คือการบอกหน้าที่ของคำว่า คำศัพท์นั้นหน้าที่ของคำ
เป็นอะไร เช่น  glass เป็น n. หรือ noun , N. 
8.        Stylistic values = เป็นการบอกรูปแบบการใช้คำว่าคำศัพท์นั้นใช้ใน colloquial (ภาษาพูด)
Archaic (คำโบราณหรือคำที่พบในงานเขียนสมัยก่อน)  literary (วรรณกรรม)
poetic (บทกวี) slang (แสลงหรือภาษาปาก
ภาษาข้างถนน คำพูดที่คิดขึ้นมาใช้เองในระหว่างกลุ่มบุคคล)
Obsolete หรือ obs.  คือคำที่ถูกยกเลิกใช้แล้ว
Colloquial คือคำที่ใช้ในภาษาพูด ไม่นิยมใช้ในภาษาเขียนที่เป็นทางการ
Dialectal คือ ภาษาถิ่น เป็นคำที่ใช้ในท้องถิ่นนั้นๆ
Slang คือคำที่ไม่สมควรใช้ในภาษาเขียนที่เป็นทางการ แต่ใช้กับบุคคลบางคนและบาง
โอกาสเท่านั้น
9.        Origin of the word = การบอกที่ของคำศัพท์ ว่ามีต้นกำเนิดมาจากที่ไหน ก่อนจะมาใช้
เป็นภาษาอังกฤษ หรือคำที่ถูกยืมมาใช้ เช่น
Greek หรือย่อว่า GK เป็นคำที่ยืมมาจากภาษากรีก 
Latin (ตัวย่อ L.) เป็นคำที่ยืมมาจากภาษาลาติน  
O หรือ OF  ย่อมาจาก Old French) ภาษาฝรั่งเศสในสมัยก่อน
M หรือ ME  ย่อมาจาก Middle English  ยืมมาจากภาษาอังกฤษในยุคกลาง


10.     Synonyms (SYN.)  คำเหมือนAntonyms (ATN.) คำตรงข้าม เป็นการบอกว่าคำ
ศัพท์นั้นมีคำเหมือนกับคำว่าอะไร หรือตรงข้ามกับคำว่าอะไร เพื่อให้ได้ทราบความหมาย
ที่เหมือนกัน และแตกต่างกันเพื่อจะได้จดจำคำศัพท์ได้หลากหลาย ซึ่งในบางครั้ง
คำเหมือนอาจใช้คำว่า see, see also, also  และคำตรงข้ามอาจใช้คำว่า opposite
 (opp.)
11.     Idiomatic expression = คือคำที่นำมาทำเป็นสำนวน หรือวลี หรือเป็นประโยคที่
มีความหมายแตกต่างไปจากเดิม   เช่น It’s rain like cat and dog.
ฝนตกยังกะหมาแมวกัดกัน เป็นสำนวนในการเปรียบเทียบว่าฝนตกหนักฟ้าร้อง
12.     Entry words คือจำนวนคำศัพท์ที่ปรากฏอยู่ในหน้าหนังสือในแต่ละคำ ที่พิมพ์เป็น
ตัวหนาด้านหน้าของคำที่มีความหมายและตัวสะกด เรียงลงมาเป็นรายการในหน้านั้น ๆ
13.     Phrasal verb หรือ compound word  = คือวลี ที่สามารถนำมาสร้างเป็นคำได้
เช่น sit up ซึ่งคำสองคำ คือ sit = นั่ง และ up = ขึ้น แต่รวมกัน sit up แปลว่า ยืนขึ้น
 take off, sit down, turn on
14.     Samples sentence = shows how to use a word in a sentences.
แสดงตัวอย่างการใช้คำนำมาเขียนเป็นประโยค เพื่อให้เราได้ใช้คำมาทำเขียนเป็น
ประโยคได้ถูกต้อง   เช่น คำว่า sit up  example   Please sit up. 

สรุปตัวย่อที่ใช้ในดิกชั่นนารีภาษาอังกฤษ – อังกฤษ
NAmE  = (North American English)  อังกฤษอเมริกันตอนเหนือหรือภาคเหนือ
Technical  = คำศัพท์เทคนิค หรือศัพท์เฉพาะ
Sth. =  something  บางสิ่งบางอย่าง  บางคำ
SYN.  =  synonyms
ATN. =  Antonyms
Informal = inf. ภาษาไม่เป็นทางการ
Formal =fm.  ภาษาทางการ
Sb =  somebody  บางคน
Pl. = plural  พหูพจน์  
Sing.  = Singular  เอกพจน์
U = Uncountable noun  นามนับไม่ได้
C = countable noun  นามนับได้
IDM = idiom  คำที่ทำเป็นสำนวน
Etc.  = อื่น ๆ อีกมากมาย= เป็นต้น (เช่นเดียวกับคำว่า เป็นต้นในภาษาไทย)
BrE  =  British English  ภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ
AmE = American English ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน
PHR V= Phrasal verb or compound word หรือคำผสม
คำที่นำมาทำเป็นวลี หรือผสมกันเป็นคำใหม่
Abbr. = abbreviation คือตัวย่อ  คำย่อ  เช่น March  abbr. Mar.
ตัวย่อของคำว่า March คือ Mar.
คำเหมือน  ตัวอย่างการใช้คำเหมือน  เช่น marginalize (BrE also –ise),AmE
หมายความว่า marginalize เป็นคำแบบ อเมริกันอังกฤษ แต่ใน อังกฤษแบบอังกฤษ
ใช้ marginalise  ซึ่งก็มีความหมายเหมือนกัน
Help ก็คือการยกตัวอย่างการใช้คำ จะเหมือนกับคำว่า example, sample of
Sentence


Class Work
1.    Guide word  P. 4 
1.1 analyst  คือคำแรกของหน้า
1.2  ancillary  คือคำสุดท้ายของหน้า
2.Spelling 
         2.1  mar.gin    two syllables
         2.2  marb.ling = two syllables

        

 




เทคนิคการเดาความหมายศัพท์
          ในบางครั้งที่อ่านบทความภาษาอังกฤษ เราอาจพบกับคำศัพท์ใหม่ๆ ที่เราไม่ทราบความหมาย พจนานุกรม (Dictionary) เป็นสิ่งที่จะช่วยเราได้ดีที่สุดและทำให้เราได้เรียนรู้คำใหม่นั้นๆ ในการเปิดดูความหมายของคำศัพท์
ในพจนานุกรม เราควรดูที่มาของคำศัพท์นั้นประกอบกับคำแปลด้วย เพราะคำศัพท์ใหม่คำอื่นๆ อาจประกอบด้วย
รากศัพท์หรือที่มาของคำศัพท์เราจำได้จากคำศัพท์เก่าที่เราเคยเปิดพจนานุกรมดูแล้ว ทำให้เราพอจะเดาความหมาย ได้คร่าวๆ หรืออาจจะถูกต้องเลยก็ได้ นอกจากนั้นเวลาเปิดพจนานุกรมเราควรดูการออกเสียงของคำศัพท์นั้นๆ ด้วย รวมถึงการเน้นเสียง (Stress) ที่ถูกต้อง เพราะมีบ่อยครั้งที่ลักษณะการออกเสียงไม่เป็นไปอย่างที่เราคาดไว้
         ถ้าเราไม่มีพจนานุกรม เราก็คงต้องเดาความหมายคำศัพท์คำใหม่นั้นๆ แต่เป็นการเดาอย่างมีหลักการ ซึ่งเราแบ่งออกเป็น ขั้นตอนใหญ่ๆ ได้แก่
       
1. การเดาความหมายจากข้อความแวดล้อม (Context clues)


         ตัวอย่างเช่น Elvis Presley was afraid of being assassinated, and he wore a bullet-proof vest, but he couldn't stay away from the crowds who loved him.
         จากประโยคข้างต้น ความหมายของคำว่า assassinate น่าจะหมายถึง ฆ่า เพราะข้อความที่ตามมาบอกว่า เขาใส่เสื้อเกราะกันกระสุน ดังนั้นสิ่งที่ Elvis Presley กลัวก็น่าจะหมายถึงการถูกฆ่าหรือจากตัวอย่างเช่น
His sister is so indolent. She sleeps late and never does chores unless yelled at.
          คำว่า indolent น่าจะหมายความว่า ขี้เกียจ เพราะจากประโยคที่ตามมาว่าเธอหลับดึกและไม่ทำงานบ้าน นอกจากจะถูกตะโกนสั่ง
          
2.  การเดาความหมายโดยวิธีแยกรากศัพท์

         เราอาจแยกส่วนประกอบของคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ยาวๆ ออกเป็น Prefix, Root และ/หรือ Suffix โดยที่ Prefix หมายถึง คำที่วางหน้าส่วน Root (รากศัพท์) แล้วทำให้เกิดความหมายหรือทำให้ความหมายของ Root นั้นเปลี่ยนไป เช่น           
Re- = again :
Reuse = use again
Reload = load again
Reheat = heat again
Inter- = between :
Interact = act in between
En- or Em- + adj. = to make :
Ensure = to make sure
Enlarge = to make large
En- or Em- + n. or v. = to put into or o­n :
Endanger = to put into danger
Empanel = to put in a panel
         ส่วน Root หรือรากศัพท์ เป็นส่วนที่เราต้องเพ่งความสนใจเป็นพิเศษเพราะมันเป็นส่วนที่ให้ความหมายหลัก แต่ก็เป็นส่วนที่เราต้องจำมากที่สุดด้วย เช่น
aqua = water : Aquarium = an artificial pond for water creatures
fact = make,do : Manufacture = to make (goods) using machinery
ject = throw : Trajectory = a path of something thrown in the air
vert = turn,change : Convert = to change from o­ne form to another
port = carry : Portable = that can be easily carried
         สุดท้ายก็เป็น Suffix ซึ่งเป็นส่วนที่บอกถึงหน้าที่ (Part of speech) ของคำนั้นๆ เช่น
Portable (adjective) = that can be easily carried
Portably (adverb) = in the way that can be easily carried
Portage (noun) = (cost of) carrying goods ; carrying boats
Portative (adjective) = of carrying ; able to be carried
         อย่างไรก็ตาม การเดาความหมายโดยวิธีแยกรากศัพท์นี้ไม่สามารถใช้ได้กับคำศัพท์ทุกคำ เพราะคำบางคำ มีที่มาจากคำเฉพาะของมันเอง ไม่ได้เกิดจากการประกอบกันของ Prefix, Root และ Suffix ดังกล่าว เช่นคำว่า Injury (n) แปลว่า การบาดเจ็บ ไม่ได้เกิดจากคำว่า In(ที่เราอาจเผลอคิดไปว่าเป็น Prefix) ต่อกับคำว่า Jury
(ที่เราคิดว่าเป็น Root) ที่แปลว่าคณะลูกขุน จะเห็นว่า Injuryไม่ได้มีความหมายเกี่ยวอะไรกับคณะลูกขุนเลย เป็นต้น
        
**ถ้าเราวิเคราะห์ให้ลึกๆ อีกที เราจะทราบว่าเมื่อเราทดลองแยกรากศัพท์แล้วส่วนของ Root ที่ถูกแยกออกจาก Prefix และ Suffixมักจะเป็นรากศัพท์ของกรีกหรือลาตินซึ่งไม่ได้มีความหมายตรงกับความหมายของคำๆนั้นเมื่อเป็นคำภาษาอังกฤษโดยตัวมันเองตัวอย่างเช่น
             
Tangent(n) = a straight line that touches the outside of a curve
       
ซึ่งสามารถแยกออกเป็น Root ซึ่งก็คือ Tang เป็นรากศัพท์หมายถึง touch แต่คำว่า Tangนี้เองก็เป็นคำในภาษาอังกฤษโดยตัวมันเองซึ่งแปลว่า รสชาด(เปรี้ยว)จี๊ดหรือกลิ่นฉุน จะเห็นว่าคำแปลของ Tangent นั้นไม่เกี่ยวข้องกับรสชาติหรือกลิ่นฉุนเลย
**จุดนี้เราต้องแยกให้ออก คราวนี้มาถึงขั้นตอนของการแยกรากศัพท์ ขั้นแรกต้องแยก Prefix หรือ Suffix ออกไปก่อน โดยนึกถึง Prefix/Suffixที่เราคุ้นเคย แล้วจึงค่อยมาพิจารณา Root ทีหลัง บางครั้งเราอาจต้องใช้วิธีทดลองแยกหลายๆ แบบ ถ้าเราไม่รู้จัก Prefix/Suffix นั้นๆ เช่น คำว่า Dermatitis ถ้าแยกเป็น De- + rmat + -itis เพราะคิดว่าคำนี้มี Prefix เป็น De- (หมายถึงทำให้เลวลง,ลดลง) และ Suffix เป็น -itis (หมายถึงการอักเสบ) จะเห็นว่า Root "rmat"นั้นไม่มีความหมาย หรือถ้าแยกเป็น Derm- + atit + is โดยคิดว่า Derm- เป็น Prefix ที่แปลว่าเกี่ยวกับผิวหนัง Root "atit" และ Suffix "is" ก็ไม่มีความหมายอีกที่จริงแล้วต้องแยกเป็น Dermat- + itis โดย Dermat- เป็น Root แปลว่าผิวหนังหรือเกี่ยวกับผิวหนัง ส่วน -itis เป็น Suffix หมายถึงการอักเสบ เพราะฉะนั้นคำว่า Dermatitis ก็คือการอักเสบของผิวหนัง นั่นเอง
**สังเกตว่าคำนี้ไม่มี Prefix   ดังนั้นจะเห็นว่า คนที่มีความรู้เรื่อง Root, Prefix และ Suffix มากๆ จะสามารถเข้าใจความหมายของคำศัพท้มากมาย
         Prefixes
        คำศัพท์ที่มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกมักมี Prefix ทำหน้าที่เป็น Preposition ซึ่งจะลงท้ายด้วยสระ ถ้า Root ที่ตามมาขึ้นต้นด้วยสระด้วย จะเกิดการลดรูปโดยตัดสระท้าย Prefix นั้นทิ้ง (ยกเว้น Peri-) เช่น Prefix "meta-"ถ้านำหน้า Root "morphosis" เกิดคำว่าmetamorphosis แต่ถ้านำหน้า "encephalon"จะเกิดคำว่า metencephalon แต่คำว่า Peri-(รอบๆ) รวมกับ Otic (เกี่ยวกับหู) ก็ยังเป็นPeriotic ที่แปลว่า รอบๆหู
ส่วน Prefix ที่มาจากภาษาลาตินอาจเปลี่ยนพยัญชนะท้ายตามพยัญชนะที่ขึ้นต้นของ Root เพื่อให้การออกเสียงคำนั้นง่ายขึ้น เช่น Prefix "ad-" รวมกับ Root+Suffix "finity"จะกลายเป็น Affinity หรือ Prefix "in-"กับ Root+Suffix "radiation" กลายเป็น Irradiation เป็นต้น
         คำประกอบโดยทั่วไป ถ้า Root หรือ Suffix ที่ตามมาขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ ก็มักจะมีการเติม "o" หรือ "i"ระหว่างกลาง เช่น Aerosol ที่แปลว่า คอลลอยด์ที่มีตัวกลางเป็นแก๊ส มาจาก Aer- (อากาศ) + o + -sol (คอลลอยด์ชนิดหนึ่ง) หรือ Lumbocostal ที่แปลว่าเกี่ยวกับส่วนเอวต่อกับซี่โครง มาจาก Lumb- (เอวหรือสีข้าง) + o + -costal (เกี่ยวกับกระดูกซี่โครง) หรือ Curvilinear ที่แปลว่า เป็นเส้นโค้งมาจากCurv- (เส้นโค้ง) + i + -linear (เป็นเส้น)เป็นต้น

Prefixes ที่ควรรู้
ab-
ac-,ad-,af-,ag-
ambi- 
ante-
anti-  
arch-
auto-     
bene-      
bi-   
circum-       
co-,com-,con-     
contra-
de-       
dis-
e-,ex-
extra-
fore-    
hyper- 
il-,im-,in-,ir-
inter-
intra-,intro-
mal-,male-
mis-  
mono-
non-     
pan-       
per-       
poly-  
post-
pre-
pro- 
re-        
semi-
sub-,sup-   
super-  
trans-   
tri-      
un-  
uni-   
vice-        
=     from,away        ; abnormal, abduct
=     toward, to         ; account,advantage, aggravate
=     both            ; ambidextrous
=     before            ; antechamber, antedate
=     against            ; antisocial, antiporn
=     great,chief        ; archbishop
=     self            ; automatic
=     well            ; benefactor,benevolent
=     two, twice        ; bicycle,bisexual
=     around            ; circumference,circumscribe
=    with, together         ; cooperate,commit, conduct
=     against, contrary    ; contradict
=     from, down, away    ; deport, deteriorate, decelerate
=     apart from, away    ; dissect, distrust, dissipate
=     from, out, out of    ; eject, exclude, expatriate
=     beyond, outside of    ; extraordinary, extraneous
=     in front of, before    ; forebode, forearm
=     over, beyond        ; hypertension
=     not, in, inside        ;illegible, input, impure, irradiate
=     among, between    ; interrupt, intercom, intercede
=     between, into         ;intramural, intravenous, intromit
=     bad, ill            ; malefactor, malady,malfunction
=     wrong            ; misprint,mispronounce, misspell
=     o­ne           ; monotone, monofilament
=     not, none        ; nonsense,nonissue, nonmusic
=     all           ; panorama, pandemic
=     through, by        ; perforate,perceive
=     many            ; polygamy, polyester,polygon
=     after, behind        ; postscript,postlude
=     before            ; preview, precede,prenomen
=     forward, before    ; process, procede, progress
=     again, back        ; reheat,reboil, retreat
=     half, partly        ; semicircle,seminude
=    under            ; subordinate, support
=     o­n, over, above    ; superior, superabound, superpose
=     across, over        ; transports,transmit
=     three            ; tricolor, tricycle
=     not, to do in opposite way ; unnecessary, uncover
=     single, o­ne        ; uniform,unify
=     in place of        ;vice-president

Suffix ที่ควรรู้
-able,-ible (adj) 
-age    (n)  
-al    (adj) 
-ance,-ence    (n) 
-ant,-ent (adj or n)  
-ary,-ory (n or adj)  
-atic,-etic (adj)
-cy (n)
-er,-or (n)    
-esque (adj)     
-ful,-full (adj)      
-hood (n)  
-ism (n)        
-ist (n)       
-istic (adj)
-less (adj)   
-ly (adv) 
-ment    (n)      
-ness (n)   
-ous (adj)   
-sis        
-ster (n)
-tion,-sion,-ion (n)
-tive,-sive (adj or n
-tude (n)
-tudinous (adj)
   
=   capable,fit        ; loanable, sensible
=   state             ;camouflage, appendage
=    pertaining to        ; natural,postural
=   act of, state of         ; patience,importance
=    in a condition of, o­ne who     ; adjacent,assistant
=    place of, in the state of      ; armory,accessory, necessary
=   of, characterized of        ; systematic,sympathetic
=   state of being            ; intimacy, pungency
=    o­ne who         ; villager,inspector, instructor
=    like            ; grotesque,picturesque
=    having, full         ;pitiful, handful, fruitful
=    state, condition     ; ladyhood, neighborhood
=    state, fact of being    ; atheism, Bhuddism
=    o­ne who do, follow ; physicist, artist, Bhuddist
=    of -ism         ; artistic
=    without         ; airless,cheerless
=     in the manner of    ; commonly, capably
=    that which        ; acomplishment,statement
=   state of         ; madness, foolishness
=   full of, like         ; poisonous,furious
=    state of            ; psychosis, abiosis      
=   o­ne who         ; youngser, gangster
=    act of            ; extension, election
=    of, like            ; infective, native,motive
=    quality of         ; altitude,plentitude
=    having the quality of     ; longitudinous
   
********************************************
การเดาคำศัพท์โดยดูจากคำเชื่อมที่บอกคำจำกัดความ
      หรือนิยาม (Definition)      


                    คำเชื่อมเหล่านี้ ได้แก่ 
                        to be                            be called
                        mean ( gled)                called
                        to be know as              refer to
                        can be defined as        can be thought of

       ตัวอย่างที่ 1

            A body of water surrounded by land is usually called a lake.
            lake         =   a body of water surrounded by land 
           ตัวแนะ     =   is called

        ตัวอย่างที่ 2
            A committee may be defined as any group interacting in regard
            to a common purpose.          
           committee    =  any group interacting in regard
                                     to a common purpose
            ตัวแนะ       =   be defined as 


1.2  การเดาคำศัพท์โดยดูจากคำเชื่อมที่แสดงการพูดซ้ำความหมาย
      (Renaming or Restatement)
                    คำเชื่อมเหล่านี้ ได้แก่
   
                          or                                   that is to say  ( หรือ i.e.)
                        that is                            in other words
                        to put in another way   viz ( อ่านว่า namely)
       ตัวอย่างที่ 1            You  can take an escalator, or a moving staircase, to go down to the plateform.
            escalator      =    a moving staircase
            ตัวแนะ      =    or

        ตัวอย่างที่ 2
            These two circles are concentric. In other words, they have the same center
           concentric     =   having the same center
               ตัวแนะ      =   in other words

1.3 การเดาคำศัพท์โดยดูจากคำเชื่อมที่แสดงการเปรียบเทียบที่คล้ายคลึงกัน
     (Similarity)
             คำเชื่อมเหล่านี้ ได้แก่
                        as                                   like
                        as...........as                    alike
                        likewise                         as if
                        similar                            just as
                        just the same as            in the same way
                        comparity                      compared with
                        as though
        ตัวอย่างที่ 1            Like John who loves  to stroll in the park, Jane thinks it is a good
       way to spend an evening walking in the park.
            stroll      =   walking
           ตัวแนะ   =    like
        ตัวอย่างที่ 2
            If you invert the letter "W" you will get the letter "M". In the same way,       you get the letter "u" by turning the letter "n" upside down.          
              invert       =  turning the upside down
            ตัวแนะ       =  in the same way

1.4 การเดาคำศัพท์โดยดูจากคำเชื่อมที่แสดงความขัดแย้ง
     (Contrast and Concession) 

                คำเชื่อมเหล่านี้ ได้แก่
                        but/yet                          though / although/
                        eventhough                   however / nevertheless 
                        o­n the other hand
                        while / whereas             o­n the contrary               
                        in contrast                     as opposite to 
                        in spite of                      despite
          ตัวอย่างที่ 1            Some people endure great suffering without complaining at all,
        while those who cannot cope with pain complain endlessly.
             ประโยคนี้มีคำเชื่อมคือ  while เชื่อมข้อความที่ขัดแย้งกัน ข้อความแรกกล่าวว่า
       บางคน "endure"
  ความทุกข์ยากลำบากได้โดยไม่บ่นเลย  ข้อความหลังกล่าวว่า
       แต่บางคนที่ไม่สามารถทนกับความทุกข์ เจ็บปวดได้ (cannot cope with pain)
       จะบ่นโดยไม่มีที่สิ้นสุด (complain endlessly)  ข้อความหลังจะมีความหมายตรงข้าม
       กับข้อความแรก ดังนั้นพอจะเดาได้ว่า  endure  ซึ่งตรงข้ามกับ  cannot cope with
       pain  คือ ทน ทนทาน หรือ bear นั่นเอง  ในพจนานุกรมให้ความหมายคำนี้ไว้ว่า
       bear, put up with ซึ่งใกล้เคียงกับที่เดาไว้นั่นเอง

         ตัวอย่างที่ 2
             An elephant is immense, comparing to a mouse.     
        mouse (หนู ) เป็นสัตว์ขนาดเล็ก  (small)
        แต่  elephant   (ช้าง) เป็นสัตว์ขนาดใหญ่ (big)
          immense =/= small       ( not small /big)
         ดังนั้น  immense = big
1.5 การเดาคำศัพท์โดยดูจากคำเชื่อมที่แสดงตัวอย่าง (Examplification)
                คำเชื่อมเหล่านี้ ได้แก่                        e.g./for example
                        for instance                     such as
                        like                                  ex.               
                        as follows

        ตัวอย่างที่ 1            Do you participate in o­ne of the more popular avocations, such as
       jogging, tennis or stamp collecting?

        อธิบาย     avocations        เป็นคำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย                           such as             เป็นคำชี้แนะ หรือคำสัญญาณ                           jogging, tennis, stamp collecting 
     เป็นตัวอย่างที่ผู้เขียนยกขึ้นมา  
        เพราะฉะนั้น  avocations  ก็คือ งานอดิเรก  (hobbies)  ทั้งนี้เพราะ jogging
                 (การวิ่งเหยาะ ๆ)  tennis และ 
 stamp collecting  เป็นงานอดิเรกทั้งสิ้น     
        ตัวอย่างที่ 2
            When  you arrange the condiment shelf, put the salt and pepper next
      the paprika.
 
        อธิบาย     condiment           เป็นคำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย                          salt and pepper  เป็นตัวอย่างที่ผู้เขียนยกขึ้นแสดง              ดังนั้น  condiment          ก็คือ เครื่องปรุงรส ทั้งนี้เพราะ salt (เกลือ)  และ pepper
                                                      เป็นเครื่องปรุงรสอาหาร
    

   
                                              -------------------------------------
1.6 การเดาคำศัพท์โดยดูจากคำเชื่อมที่บอกการอธิบายสาเหตุ
     และความเป็นเหตุเป็นผล (Cause and Effect or Result) 

                คำเชื่อมเหล่านี้ ได้แก่                        because                        since
                        as                                  now that
                        for                                 because of
  &n